PhillipCapital Your Partner in Investment

poems poems

ศูนย์การเรียนรู้
เงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยพุ่ง ส่งผลต่อพอร์ตการลงทุนของเราอย่างไร แล้ว...จะเลือกลงทุนอะไรดี?

 

สวัสดีเพื่อนๆ นักลงทุนทุกท่านกลับมาพบกันอีกแล้วกลับ Mr. Phillip นะครับ เมื่อพฤษภาคมเดือนที่ผ่านมาสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ได้ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของประเทศไทยออกมาอยู่ที่ ระดับ 7.10% ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาในเวลาต่อมา ซึ่งสาเหตุมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น วันนี้เราจะมาทำเข้าใจกันว่า เงินเฟ้อจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อการลงทุน และควรเลือกลงทุนอย่างไรในภาวะเงินเฟ้อสูง

เงินเฟ้อ เป็นสภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาวะเงินเฟ้อที่ไม่รุนแรงหรือเงินเฟ้ออย่างอ่อน จะเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะเป็นการกระตุ้นการลงทุน การจ้างงาน และทำให้รายได้ของประชาชนปรับเพิ่มขึ้น แต่หากเงินเฟ้อขยับขึ้นอย่างรวดเร็วจะไม่เป็นผลดี เพราะจะทำให้ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้นมาก ซึ่งในประเทศไทยครั้งล่าสุดสูงถึง 7.1% โดยเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนอกจากจะส่งผลต่อเงินในกระเป๋าเราแล้ว ยังส่งผลต่อพอร์ตการลงทุนเราอีกด้วย

เมื่อเงินเฟ้อปรับตัวขึ้น ส่งผลให้ผลตอบแทนที่แท้จริงของการลงทุนมีการปรับตัวลดลง แถมถ้าเงินเฟ้อสูงมากๆ ยังส่งผลให้ธนคารกลางอาจจะต้องปรับดอกเบี้ยให้สูงขึ้นอีกด้วยซึ่งการปรับดอกเบี้ยนโยบายที่สูงขึ้นก็ส่งผลให้เงินไหลออกจากตลาดหุ้น และ ธุรกิจ ก็มีแนวโน้มอัตรากำไร (Margin) ลดลง เนื่องจากต้นทุนผลิต/สินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่การปรับราคาขายขึ้นให้โตทันต้นทุนไม่ได้ทั้งหมด ส่งผลให้แนวโน้มอัตรากำไรลดลง

มาถึงตรงนี้เพื่อนๆ พอจะนึกภาพออกแล้วว่าเงินเฟ้อที่เรากำลังเผชิญในปัจจุบันทั้งในและต่างประเทศนั้น ส่งผลกระทบต่อพอร์ตการลงทุนของเราและคงมีคำถามว่า ควรจะเลือกลงทุนในอะไรดีถึงจะตอบโจทย์ในภาวะเงินเฟ้อสูงและดอกเบี้ยที่มีโอกาสปรับตัวขึ้นเช่นนี้มาดูกัน

สำหรับผู้ที่กำลังสนใจจะเริ่มลงทุนแนะนำให้เริ่มทะยอยลงทุนแบบ Dollar Cost Averaging (DCA) โดยเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ในภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่กำลังจะสูงตาม ตัวอย่างเช่น

1.กลุ่มธนาคาร

เพราะการที่ธนาคารกลางเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ธนาคารพาณิชย์ก็สามารถปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นตามนโยบายของธนาคารกลาง ซึ่งรายได้ของธนาคารก็มาจากดอกเบี้ยของการปล่อยสินเชื่อ นั่นก็เพราะว่า ธนาคารสามารถเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้สูงขึ้นตามดอกเบี้ยนโยบาย และมีช่องว่างให้ปรับดอกเบี้ยเงินฝากขึ้นตามในขนาดที่น้อยกว่าหรือช้ากว่า ทำให้เกิดส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิสูงขึ้น
 
2. กลุ่มธุรกิจนำเข้า

อัตราดอกเบี้ยในประเทศสูงขึ้น จากภาวะเงินเฟ้อ จะเป็นการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ และส่งผลต่อให้ค่าเงินของประเทศแข็งค่าขึ้น กลุ่มธุรกิจนำเข้า ก็จะได้ประโยชน์จากกการใช้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าที่ลดลง ทำให้อัตรากำไรข้างต้นเติบโต
 
3.หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์

เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ จะผันตามเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อตัวเลขรายได้รวมของบริษัทที่ทำการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ 
 
เพื่อนๆ นักลงทุน น่าจะพอเห็นภาพแล้วว่าหุ้นกลุ่มไหนได้ประโยชน์จากภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่จะพุ่งสูงตามมาแล้วบ้าง ก็สามารถนำไปแนวทางในการปรับพอร์ตการลงทุนรับมือกับภาวะเงินเฟ้อของท่านได้

ส่วนสำหรับมือใหม่ที่กำลังคิดจะเริ่มลงทุนเวลานี้ เพราะเราไม่รู้ว่าเงินเฟ้อจะสูงสุดเมื่อไหร่การทะยอยลงทุนแบบ DCA จะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่อยากจะเริ่มลงทุนในการวางแผนเกษียณมากที่สุด เพราะจังหวะนี้ราคาหุ้นปรับลงหลายตัวพื้นฐานมีความแข็งแกร่งดังนั้นควรจะเริ่มทะยอยสะสมหุ้นในเวลานี้ได้นะครับ

สนใจการลงทุน DCA รายเดือน : www.phillipsavingplan.com
หรือต้องการปรึกษาเจ้าหน้าที่/ สนใจเปิดบัญชี แจ้งที่ : http://bit.ly/2qFxP0i Line: @phillipcapital (คลิก https://lin.ee/ikRG3vT)

#ลงทุนDCA #ลงทุนรายเดือน #ออมหุ้น #ออมกองทุน